
รีวิวกีตาร์ PRS SE NF3
Key takeaways:
- กีตาร์แนวสตรัทจากค่าย PRS ที่เป็น PRS ไม่ใช่ Fender
- คอบาง เล่นง่าย สัมผัสคล้ายรุ่น SE CE 24
- ปิคอัพดี ไม่จี่ โทนอุ่นๆ กึ่ง single coil กึ่ง humbucker คลีนก็ดี แตกก็สนุก
- แต่ความอินดี้ ไม่เหมือนอะไรเลย ก็แนะนำว่าคนที่สนใจ ควรหาโอกาสทดลองเองก่อนตัดสินใจ
กีตาร์ PRS แนว S-type อีกแล้วรึ?

หลายคนที่เป็นน้องใหม่เพิ่งสนใจกีตาร์ยี่ห้อนี้อาจไม่รู้ว่า ที่จริงแล้ว PRS มีความพยายามทำกีตาร์ที่ได้รับอิทธิพลจาก Fender Stratocaster มาก่อนหลายต่อหลายรุ่น โดยแต่ละรุ่นก็ไม่ได้เหมือนสตรัทอะไรมากมาย ล่าสุดที่ประสบความสำเร็จ (สักที) ก็คงหนีไม่พ้นรุ่น Silver Sky รุ่นลายเซ็นของ John Mayer ซึ่งเป็นรุ่นขายดี มีทั้งแบบผลิตที่อเมริกาและแบบ SE Series นั่นเอง
สำหรับ SE NF3 ที่เพื่อนๆ กำลังอ่านรีวิวอยู่นี้ อันที่จริง PRS ชื่อนี้ไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นรุ่นต่อยอดจากตัวต้นฉบับที่ผลิตในโรงงานที่อเมริกาในอดีต (ปี 2011 – 2013) ชื่อ NF3 มาจากชื่อปิคอัพรุ่น Narrowfield ซึ่งเป็นปิคอัพแนวคิดใหม่ (ในขณะนั้น) ที่ออกแบบให้มีคาแรคเตอร์โทนก้ำกึ่งระหว่าง humbucker กับ single coil จำนวน 3 ตัว มากับบอดี้ทำจากไม้ korina (limba) คอเมเปิลเลื่อยแบบ quarter sawn ชิ้นเดียว เข้าคอด้วยสกรู ความยาวสเกล 25.25 นิ้ว นอนมาสวยๆ ในเคส ปัจจุบันไม่มีรุ่น bolt-on construction รุ่นไหนจัดสเปคให้แบบนี้แล้ว
คอนเซพท์ของปิคอัพ Narrowfield แท้จริงมันคือปิคอัพชนิด humbucker พันด้วยลวดแบบเดียวกับปิคอัพรุ่น 57/08 อันเลื่องชื่อ การที่มันมี 2 คอยล์ประกบคู่กลับเฟสกันแปลว่ามันจะไม่จี่ แต่แทนที่จะผลิตให้มีขนาดเท่า humbucker ทีมออกแบบกลับออกแบบทรงปิคอัพใหม่ให้คอยล์เล็ก ประกบกันแล้วหน้าแคบกว่า humbucker ไซส์ปกติ เมื่อหน้าแคบลง ก็สร้างสนามแม่เหล็กแคบลง มีการรับรู้การเคลื่อนที่ของสายแคบลง “ใกล้เคียง” กับปิคอัพแบบ single coil มากขึ้น เกิดซาวด์ใหม่ขึ้นมา ไม่ได้พยายามจะเป็นสตรัทซักเท่าไหร่
PRS NF3 ได้รับรางวัล Musikmesse International Press Award (mipa) ของประเทศเยอรมนี ในหมวด “Best Electric Guitar” ปี 2010/2011 ด้วย แต่ถึงจะดีขนาดนี้ก็อยู่ในตลาดได้ไม่ถึง 4 ปี อาจจะด้วยหน้าตาและแนวคิดที่ radical ไปหน่อยหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ แต่เอาเป็นว่ามันก็เป็นการนำเสนอกีตาร์ S-Type หัวก้าวหน้ารุ่นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของค่าย PRS และเป็นต้นแบบของรุ่น SE NF3 ที่ผมจะมารีวิวในวันนี้ครับ

(Photo source: forums.prsguitars.com)
สเปคล่ะ
- Model: SE NF3 Maple
- Construction: bolt-on
- Body wood: poplar with front routing and pickguard
- Neck wood: maple, scarfed joint under nut area
- Neck shape: Wide Thin, natural satin finish
- Fingerboard: maple (as shown) or rosewood
- Fingerboard inlay: birds
- Scale length: 25″
- Fingerboard radius: 10″
- Electronics
- PRS Narrowfield Deep Dish set (of 3 positions)
- 5 way blade pickup selector
- 1 volume, 1 tone, side-mounted output jack
- Tuners: PRS SE, non-locking
- Tremolo: PRS SE tremolo
- Accessories: PRS SE gig bag, tremolo arm, adjustment tools
- Price: 29,400 บาท (09/2024)
มาดูใกล้ๆ
ต้องยอมรับว่าผมถูกชะตา SE NF3 อยู่พอสมควร ทุกอย่างดูสมส่วน ดูเป็น PRS มากกว่า Fender ทั้งทรงบอดี้ ทรงปิคการ์ด ช่วงคอ ยันส่วนหัว ทำให้มองแล้วรู้สึกว่า “แบบนี้ค่อยยังชั่ว” หยิบขึ้นมาครั้งแรกก็รู้สึกว่าน้ำหนักค่อนข้างเบา (น้ำหนักกีตาร์ตัวที่ทดสอบ ประมาณ 3.25 กก.) เอามาวางในท่านั่งเล่น มีความรู้สึกเหมือนน้ำหนักมันจะเทไปด้านท้ายนิดๆ แต่ไม่เยอะมาก
ส่วนคอนั้นสร้างจากการต่อไม้ที่บริเวณใต้นัท (scarfed neck joint) ตามแบบกีตาร์สไตล์ bolt on ยึดเข้ากับบอดี้ที่ทำจากไม้ poplar มือซ้ายกำที่คอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่คุ้นเคยสำหรับคนเล่น PRS player แบบผม มันให้ฟีลประมาณคอ CE 24 ค่อนข้างบาง ลื่น เล่นสบายทั้งคอร์ดและโซโล่ โลโก้หัวกีตาร์เป็นแบบลายเซ็นลุงพอลใหญ่ๆ กับคำว่า SE ตัวเล็กๆ ข้างใต้ ฝา truss rode cover ทรงสามเหลี่ยมโค้งสไตล์ PRS สกรีนชื่อรุ่น NF3 ลูกบิด PRS SE ไม่ล็อกสาย นัทเป็นของ SE



SE NF3 มีไม้ฟิงเกอร์บอร์ดให้เลือก 2 แบบคือไม้เมเปิล (แบบตัวนี้) กับไม้โรสวูด อินเลย์เป็นนกวัสดุสังเคราะห์ทุกชนิดไม้ ขอบฟิงเกอร์บอร์ดลบเหลี่ยมมากำลังดี ซึ่งดูเหมือน PRS จะมีมาตรฐานควบคุมการผลิตในส่วนนี้ได้ดีมาก เพราะที่ผมจับมาไม่ว่าตัวเป็นแสนหรือ SE อินโดนีเซียก็ให้ความสบายส่วนนี้ไม่ต่างกัน
เฟรทขนาด medium jumbo อันนี้ก็สเปคแบบ PRS แท้ๆ ทั้งหมดที่ว่ามานี้จึงทำให้ผมรู้สึก at home ไม่ต่างอะไรกับตอนลอง SE CE 24 เลย

ภาคไฟฟ้าคือไฮไลท์ของกีตาร์รุ่นนี้ เพราะมันมากับปิคอัพที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อโทนที่แตกต่าง โดย SE NF3 มากับปิคอัพเซ็ท Narrowfield DD (DD ย่อมาจาก Deep Dish) ชื่อนี้มีที่มาจากปิคอัพ 2 รุ่นในอดีตของ PRS รุ่นแรกก็คือ Narrowfield ซึ่งเป็นปิคอัพ humbucker หน้าแคบ ตามที่ผมได้เล่าไปในตอนต้น ส่วน Deep Dish นั้นเป็นปิคอัพในยุค 80s (มีมาก่อนรุ่น HFS) เป็นปิคอัพ humbucker ที่มีความหนา กินที่ติดตั้งลึกกว่าปกติเล็กน้อย ให้โทนออกไปทาง mellow ได้แรงบันดาลใจมาจากปิคอัพชนิด P90/Soapbar แต่ได้เปรียบกว่าเพราะไม่จี่ (เนื่องจากเป็น humbucker) จากประวัติที่ผมเล่าไป ก็คงพอจะเดาได้ว่าปิคอัพ Narrowfield DD จะไม่ใช่ single coil แต่เป็นอะไรที่พยายามเอาข้อดีของ single coil กับ humbucker มารวมกัน เกิดเป็นสิ่งใหม่ที่ทั้งโทนที่ใส และไม่จี่ นั่นเอง
ภาคคอนโทรลก็ดูเป็น PRS ชัดเจน ด้วยวอลุ่มและโทนอย่างละตัว selector 5 ทางแบบเบลด รู output jack 1/4″ ออกด้านข้างตามธรรมเนียม PRS ไม่ออกด้านหน้าแบบ Silver Sky ฝา knobs เป็น speed type สีดำตามปกติของ SE Series ซึ่งก็ใช่ ช่วยให้กีตาร์รุ่นนี้ยังดูเป็น PRS ปิคการ์ดพลาสติกสีดำแบบ 3 ชั้นดูกลมกลืนสวยงามกับปิคอัพสีดำเป็นพิเศษ


และอันนี้พิเศษ เอามาฝากสำหรับสายโมทั้งหลาย (ซึ่งมีไม่น้อยที่ชอบโมดิฟายกีตาร์ทรงสตรัท) สำหรับ PRS SE NF3 นั้น มี body routing แบบแยกปิคอัพช่องใครช่องมัน แต่ละช่องมีความกว้าง 4 ซม. และลึก 1.9 ซม. ใครจะซื้อเผื่อโมดิฟายเปลี่ยนปิคอัพ ก็คิดเรื่องการ route บอดี้ไว้ด้วยนะครับ (การโมดิฟายกีตาร์เป็นการผิดเงื่อนไขการรับประกันจากทางตัวแทนจำหน่ายนะครับ บอกไว้ก่อน)


คันโยกมาตรฐานของ SE บล็อคเป็นเหล็ก แซดเดิลทองเหลืองชุบ ฐานถูกยึดด้วยสกรู 6 ตัวตามปกติ (ไม่ใช่ 2 อย่าง SE Silver Sky) และแน่นอน มากับดีไซน์ล็อกก้านคันโยกแบบดึงเข้าออกได้ และตั้งความหนืดได้ตรงจุดที่ผมวงไว้

พลิกดูด้านหลังก็เห็นคอเมเปิลสีธรรมชาติ ถ้าสังเกตดีๆ ก็จะเห็นรอยต่อ scarfed joint ตรงใกล้ๆ headstock คอถูกเคลือบด้านมาจากโรงงาน เป็นการเคลือบด้านจริงๆ ไม่ใช่เคลือบเงาแล้วเอามาขัดทีหลังอย่างของ SE Mark Holcomb กับ SE Zach Myer ส่วน neck joint เป็นแบบเดียวกับรุ่น SE CE ซึ่งเป็นดีไซน์การต่อคอแบบใหม่ ใช้กับ SE bolt-on models และไม่เหมือน CE 24 USA ผมชอบ neck joint แบบใหม่นี้มาก มันเล่นสบาย มีการปรับ contour ให้โค้งมน ไม่มีส่วนมุมแหลมตำมือ มีเพลทคอสีดำประกบยึดไว้ด้วยสกรู 4 ตัว





ลองเสียงหน่อย

Clean tone
จากแนวคิดของปิคอัพ NF DD พอลองเล่นออกแอมป์จริงด้วยหัวแอมป์ PRS Archon 50 ออกตู้ ENGL 212 ดอก Celestion V30 + T75 ผมบอกได้ทันทีว่ามันเป็นอะไรที่เฉพาะตัวแต่มีความไพเราะมากๆ ผมก็ไม่รู้สึกว่านี่คือซาวด์ของ single coil หรือ Fender Stratocaster เลย กล่าวคือมันไม่ได้คมกริบ ห้วน กระชับ เด้งป๊อง อะไรอย่างสตรัทแท้ๆ เขาเป็นกัน (เอาแค่เพื่อร่วมค่ายอย่าง Silver Sky แค่นี้ก็ต่างกันเยอะแล้ว) ทั้งหมดที่ว่าไป มากับ noise ที่ต่ำจนแทบไม่มีเลย (ขึ้นอนู่กับไฟบานด้วย ผมลองที่ร้านไม่จี่เลย แต่ที่คอนโดตัวเองมีบ้างเล็กน้อย)
พูดถึงเสียง จากที่ลองอยู่นานหลายวัน ผมพบความแปลกเฉพาะตัวอย่างหนึ่งของ SE NF3 คือมันเหมือนมีทั้งเสียงที่…
- ‘คล้ายๆ humbucker‘ ที่แก๊ก 1, 3, 5
- ’คล้ายๆ single coil’ ที่แก๊ก 2 และ 4
ลองดูคลิปครับ อันนี้คือแก๊ก 4 (neck+middle) ฟังดูมีความสว่างสดใสคล้ายๆเวลาเราเล่นสตรัทแก๊กผสม แต่ก็ไม่คมขนาดนั้นซะทีเดียว และเป็นความใสที่ต่างจากการเอาพวกรุ่น Custom มาเปิดแก๊กตัดคอยล์ (เอาตรงๆ ผมว่า SE NF3 ฟังดูดีกว่าเยอะ) เสียงแก๊กผสมวอลุ่มไม่วูบ แต่ถึงมันจะฟังกรุ๊งกริ๊งยังไงส่วนตัวผมก็ยังอยากให้มันสว่างกว่านี้อีกหน่อย ผมก็จะชอบเล่นแก๊กผสมร่วมกับก้อน overdrive ที่ให้โทนสว่างๆ เพื่อบูสต์ความสดใส เด้งชัด ขึ้นมาอีกระดับ
สำหรับโทนแก๊ก 1,3,5 (ที่ว่าโทนคล้าย humbucker) นั้น ผมจัดให้อยู่โซนอุ่นหวานมากกว่าคมแหลม แต่คือมันออกไปทาง humbucker นะ มีความอ้วน อุ่น กลม มีความนวลเห็นๆ แต่คาแรคเตอร์ของย่านโลว์ก็ไม่เป็นลูกใหญ่ๆ กระแทกๆ แบบ Custom 24 คือความอ้วนสไตล์ SE NF3 จะเป็นโทนอุ่นที่ออกไปทาง relaxing มากกว่า rock/metal โทนแบบนี้เอาไปเล่นบลูส์ เล่นแจส ผมว่าสบาย เป็นโทนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ ชิลๆ สบายๆ เล่นได้ทั้งวัน
ถึงแม้จะมีการอ้างอิงว่าปิคอัพ NF DD มีคาแรคเตอร์ของ P90 ปนอยู่ในนั้น อืม… ส่วนตัวผมไม่รู้สึกอย่างนั้นนะครับ ผมเคยเล่น PRS ปิคอัพ P90 มามากพอควร ผมว่า NF DD ยังห่างไกล P90 ในเรื่องของความโปร่งและความเด้งของ P90 ซึ่งยากที่ใครจะเลียนแบบได้ ดังนั้นถ้าใครมีโจทย์ว่าอยากได้ PRS โทน P90 แนะนำว่ามองรุ่นที่เป็น P90 จริงๆ (เช่น SE 245 Soapbar, McCarty Soapbar, McCarty 594 Soapbar เป็นต้น) มันจะจบกว่าครับ หรือไม่ก็ไปลองเองก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกที

Lead tone
ก็ตามสไตล์ ผมลองริธึ่มเสียงแตกด้วยแก๊ก bridge pickup ดรอป D (สายโรงงานเบอร์ 10-46) ลองเปิด Lead channel ของแอมป์ Archon เปิดเกนแค่บ่ายโมง เปิดเบสแค่ 11 โมง แล้วเล่นสไตล์ของผมดู เสียงแตกค่อนข้างสว่าง มีความสาก มีความเปิดมากกว่ากระแทกกระทั้น เป็นโทนแตกที่เอาไปใช้งานได้กว้างหากไม่เน้นแนวที่หัวโน้ตต้องเบิ้มต้องกระแทกหูอะไรมากมาย
คลิปนี้แชแนล 2 เป็น neck pickup เปิด overdrive เพื่อบูสต์ความสว่างครับ
จากตัวอย่างเสียงทั้งคลีนและแตก เพื่อนๆ ก็น่าจะพอเห็นภาพว่า PRS SE NF3 มีโทนที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง คือกึ่งๆ humbucker กึ่งๆ single coil อย่างที่ผมบอกไป มันมีดีเอ็นเอของยี่ห้อ PRS ไม่ได้เหมือน Fender Stratocaster อย่างลุคมันสักเท่าไหร่
ปัญหาที่พบจากการใช้งาน
อย่างไรก็ตาม จากการใช้งานมันหลายวัน หลายชั่วโมง ผมพบว่าสายยังเพี้ยนง่ายไปนิด และเพี้ยนแบบติดโน้ตสูง แปลว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่นัทมีการจับสายบางสายไว้ การเคลื่อนตัวของสายผ่านร่องนัทจึงลื่นไม่เต็มร้อย น่าจะเกิดจากนัทของ SE ที่เซาะร่องมาไม่เนี้ยบ แต่ที่จริงปัญหานี้สำหรับผมเองถือว่าแก้ไม่ยาก ก็แค่ใช้ตะไบเล็กๆ ขัดร่องนัทเบาๆ เพื่อขยายความกว้าง ให้สายเคลื่อนตัวสะดวกขึ้น แต่เนื่องจากนี่เป็นกีตาร์ที่ยืมมาจากร้านผมจึงทำแบบนั้นไม่ได้
แล้วรุ่นนี้มันต่างจากรุ่น SE Silver Sky ยังไง เล่นรุ่นไหนดี?

PRS SE NF3 ถูกออกแบบมาคนละพื้นฐานไอเดียกับรุ่น Silver Sky ยิ่งได้ลองเล่นมาหมดยิ่งรู้ว่ามันต่างกันเยอะมาก ดังนี้ครับ
สเปค/สัมผัส
- บอดี้ใช้ไม้ poplar เหมือนกัน คอก็ใช้ไม้เมเปิลยึดสกรูไม่ต่างกัน แต่เชพบอดี้จริงๆ แล้วต่างกัน สังเกตง่ายที่สุดคือการปาด contours หลายๆ จุดที่ SE SS ไม่ค่อยมีอะไรมาก คล้ายๆสตรัท แต่ SE NF3 นั้นมีการปาดเว้ามากกว่านั้นจนดูเป็น PRS มากกว่า
- เชพคอต่างกันคนละโลก SE SS คอเชพ 635JM อ้วนเต็มมือ แต่ SE NF3 เชพ Wide Thin บางเท่ารุ่น SE Custom เป็นฟีลที่หลายคนคุ้นเคยเมื่อเอ่ยถึงกีตาร์ PRS
- SE SE สเกลยาว 25.5″ (เท่า Fender Stratocaster) แต่ SE NF3 สเกลยาวแค่ 25″ เท่ากีตาร์ PRS หลายๆ รุ่น ทั้งคู่คอเคลือบด้านเหมือนกัน
- นอกจากนี้ fingerboard radius ก็ต่างกันด้วย โดยของ SE SS มาแบบวินเทจ 8.5″ แต่ SE NF3 อยู่ที่ 10 นิ้ว เหมือนเรเดียสของกีตาร์ PRS ส่วนใหญ่
- SE SS มากับปิคอัพรุ่นลายเซ็น 635JM “S” ตรงรุ่นของเขา ซึ่งเป็น single coil แท้ๆ แต่ SE NF3 ก็อย่างที่บอกไปว่าเป็นปิคอัพลูกผสม มีความเฉพาะตัว
- นอกจากปิคอัพต่างกันแล้ว control layout ก็ต่างกันด้วย คือ SE SS ก็แน่หละ อิงของสตรัทมา แต่ SE NF3 มันคือ layout ปกติของ PRS
สรุปแล้วกีตาร์รุ่นนี้เหมาะกับใคร?
เหมาะกับคนที่…
- มองหาซาวด์ใหม่ๆ ไว้เล่นกว้างๆ โดยเน้นไปทางใสสว่าง คลีน โปร่ง ผมคิดว่าฟิวชัน แจส บลูส์ รุ่นนี้ก็เอาอยู่ เสียงแตกก็โอเค เป็นโทนที่ใช้งานได้กว้าง แต่ไม่กระชับแน่นเปรี๊ยะจนถึง metal core หรือแนว Metallica อะไรแนวนั้น
- โดยซาวด์ใหม่ที่ว่านั้นต้องยังให้สัมผัส การตอบสนอง และการควบคุมในแบบ PRS ไม่ใช่ Fender
- เบื่อโทน HH แบบ PRS รุ่นทั่วไป
แต่ไม่เหมาะกับ…
- คนที่อยากได้ซาวด์แบบสตรัท (SSS), HH, หรือ P90 แท้ๆ
- คนที่ชอบเล่นสไตล์ modern metal หรืออะไรที่ต้องการความกระชับจิกกัด
ส่งท้าย

สรุป โทน
สำหรับรีวิวกีตาร์ PRS SE NF3 Maple ก็จะมีประมาณนี้ หวังว่าข้อมูลและคลิปต่างๆ ที่ผมได้นำเสนออย่างตรงไปตรงมานั้น จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ที่แวะเข้ามาอ่านเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อบ้างนะครับ
ผมขอขอบคุณร้าน Music Collection ที่ส่งกีตาร์ตัวนี้มาให้ทดสอบและเขียนรีวิวด้วยนะครับ (บทความนี้เป็น paid review แต่ผมก็เล่าไปตามข้อเท็จจริงที่พบจากการใช้งานจริงอย่างตรงไปตรงมาครับ) ถ้าเพื่อนๆ สนใจก็สามารถทัก inbox ไปสอบถามสต๊อกทางร้านได้ หรือสามารถกดสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ของทางร้านครับ