
รีวิวแอมป์กีตาร์ PRS Archon 50
Key takeaways:
- แอมป์หลอดแนว high gain (แตกแรง) รุ่นตำนาน เจเนอเรชันที่สอง จากค่าย PRS
- แชแนลคลีนใส สว่าง แชแนลแตกให้เกนหนักเอาเรื่อง ย่านโลว์มีความกระชับ เล่นด้วยกีตาร์จูนต่ำ/7 สาย ได้สบาย
- ลดวัตต์ไม่ได้ แต่สามารถหรี่ Master volume เพื่อเล่นเสียงเบาได้โดยเนื้อเสียงยังดีอยู่
- แต่ issues ก็ยังมี เช่น มีเสียงวิทยุเข้าเบาๆ, Lead channel มี noise พอสมควร และไม่มี Stand by switch
- ราคา 42,000 บาท (ข้อมูล ณ 08/2024)
สวัสดีครับ กลับมาอีกครั้งกับรีวิวเครื่องดนตรีของผม คราวนี้ขอพาเพื่อนๆ ไปดูแอมป์กีตาร์กันบ้าง สำหรับวันนี้ขอรีวิวแอมป์ Paul Reed Smith (PRS) รุ่น Archon 50 (อาร์คอน ฟิฟตี้) ครับ
มันคืออะไร
มันก็คือแอมป์หลอดล้วนจากค่าย PRS ที่ชูจุดขายแนวแตกหนัก (high gain) ที่มีโทนคลีนที่ดีด้วย สามารถใช้งานได้กว้าง เนื้อเสียงฟังดูยิ่งใหญ่ ตามชื่อ Archon ที่หมายถึง “เจ้าเมือง” ในภาษากรีก
แอมป์ตระกูล Archon นั้น เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2013 ตอนนั้นประกอบในโรงงานที่อเมริกา เป็นแอมป์เลื่องชื่อที่ศิลปินหลายคนเลือกใช้ รวมถึงกลายเป็นเสียงแอมป์จำลองใน plug in และเอฟเฟคท์กีตาร์แบบมัลติหลายๆ เจ้า

จนในปี 2021 PRS ก็เปิดตัว Archon เวอร์ชัน 2 (ต่อไปขอเรียกว่า v.2) ย้านฐานการผลิตไปที่ประเทศอินโดนีเซียเพื่อนบ้าน ASEAN ของเรา ครั้งนี้มากับหลอด power tubes เบอร์ใหม่ 6CA7 ที่ให้โทนใกล้เคียงหลอด EL34 แต่ในล็อตปัจจุบัน (2024) ทาง PRS เริ่มเปลี่ยนมาใส่หลอด 6L6 แทน ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้จึงอาจพบแอมป์ Archon v.2 ทั้งที่มากับหลอด 6CA7 หรือหลอด 6L6 ก็เป็นได้ สำหรับแอมป์ v.2 ที่ผมจะมารีวิวในวันนี้เป็นล็อตที่มากับหลอดเบอร์ 6L6 นะครับ

สเปคเป็นไงบ้าง
- Model: Paul Reed Smith Archon 50
- Format: Head (มีแบบคอมโบ 1×12 ด้วย)
- Type: All tube amp
- Power tubes: TAD 6L6GC (ล็อตก่อนหน้าเป็นเบอร์ 6CA7) จำนวน 2 หลอด
- Preamp tubes: 12ax7 จำนวน 6 หลอด
- Wattage: 50
- No. of channels: 2 – Clean and Lead
- Controls
- Bass, Mid, Treble, Volume (Gain) แยก channel
- Master Volume แยกแชแนล
- Bright switch แยกแชแนล
- Depth & Presence สำหรับภาค Power
- มี ไฟ LED บอกสถานะ เปลี่ยนสีตามแชแนล (Clean สีฟ้า Lead สีแดง)
- Effects loop: มี
- Footswitch included: PRS FS1M (1 ปุ่ม)
- ราคา: 42000 บาท (08/2024)
ขอชมหน่อยซิ
เริ่มจากรูปลักษณ์ แม้มองผ่านๆ แวบเดียวก็รู้ว่ามันคือแอมป์ PRS Archon head แต่ถ้าสังเกตดีๆ การจัดวาง layout ของแอมป์รุ่น 2 นี้ต่างจากรุ่นแรก ชัดๆ ก็คือเหมือนเอา layout ของรุ่นแรกมาคว่ำลง กลายเป็นปุ่มคอนโทรลต่างๆ ย้ายไปอยู่ด้านบนของหัวแอมป์ ในขณะที่ตะแกรงระบายอากาศย้ายไปอยู่ด้านล่าง การจัด layout ตรงข้ามกับรุ่นแรกแบบนี้ทำให้ channel control สลับด้านจากเดิมไปด้วย คือ Lead channel อยู่ทางซ้ายมือ แต่ Clean channel ไปอยู่ทางขวา รูแจ๊ค Input ก็สลับมาอยู่ทางซ้าย ซึ่งสำหรับคนที่ใช้รุ่นเก่ามาก่อนแบบผมเจอครั้งแรกก็งงเหมือนกัน สาเหตุที่ control layout กลับด้านจากรุ่นแรก ก็เนื่องจากรุ่นใหม่นี้ย้ายเอาแผง PCB ที่เป็นฐานติดตั้งหลอดสุญญากาศขึ้นไปไว้ด้านบน (คว่ำหลอดลง) นั่นเอง ซึ่งจะว่าไปผมว่าแบบนี้สะดวกกว่าเก่า เพราะมองลงไปที่ dial เห็นชัดกว่าตอนอยู่แถวล่าง
แผ่น brushed metal plate แปะโลโก้ Paul Reed Smith อันใหญ่ที่เหมือนเป็นเอกลักษณ์ของแอมป์ตระกูลนี้นั้น ก็เปลี่ยนจากรุ่นแรกไป่นกัน คือจากเดิมปัดสีเงินด้าน มาเป็นปัดสีดำด้าน ซึ่งผมว่าก็สวยเรียบๆ ดีไปอีกแบบ

ป้ายชื่อรุ่น มีตัวเลขกำลังขับระบุไว้ชัดเจน แอมป์ Archon v.2 มีกำลังขับ 50 วัตต์ อย่างเดียวเท่านั้นนะครับ ไม่เหมือนรุ่นแรกที่มีตั้งแต่ 25 – 100 วัตต์

แอมป์มี 2 แชแนล Clean (คลีน) & Lead (แตก) แต่ละแชแนลมี EQ ของตัวเอง, Master Volume ของตัวเอง, Volume (gain control) ของตัวเอง นอกจากนี้ก็ยังมีสวิทช์ Bright แยกไว้ให้อีก หน้าที่ของสวิทช์พวกนี้คือไว้เพิ่มความแหลมใสเป็นประกายให้กับโทน โดยจะไม่เปลี่ยนโทนมากเท่าการเร่งย่านแหลมจาก Treble
ทงาขวาก็จะมี knob Presence สำหรับเร่งย่านแหลมในภาค power section รวมถึงมี Depth ไว้เร่งย่านโลว์แยกจากกันด้วย
การเลือกแชแนลสามารถเลือกได้ด้วย channel selector toggle ที่อยู่ใกล้ๆ รูแจ๊ค Input หรือจะเลือกจาก footswitch ที่มาพร้อมกับแอมป์ก็ได้ แต่ละแชแนลจะมีไฟ LED channel indicators ที่ใช้สีต่างกัน คือ Clean ใช้สีน้ำเงิน ส่วน Lead ใช้สีแดง อันนี้ดีกว่าเวอร์ชันที่แล้วที่ต้องดู channel ตรงไฟบน footswitch

งานประกอบโดยรวมผมให้ผ่าน ถ้าจะมีที่มองดูแล้วรู้สึกว่าแอมป์ที่แพงกว่านี้ที่เคยใช้มาทำได้เนี้ยบกว่า ก็น่าจะเป็นสกรีนข้อความต่างๆ บนแผงควบคุมที่น่าจะทำให้คมชัดกว่านี้ นอกนั้นผมไม่มีอะไรจะติ สำหรับของที่ไม่ได้ผลิตขายตลาดบูทีคทำได้ขนาดนี้ก็โอเคแล้ว ดูแพงแล้ว
Toggle 2 ตำแหน่งไว้เปิด-ปิดเครื่อง ไม่มี stand by switch

และตามที่ผมบอกไว้ในตอนต้นว่าแอมป์รุ่นใหม่นี้ เขาเอา layout ของรุ่นเก่ามาคว่ำหัวลง นั่นทำให้ Input jack ย้ายจากฝั่งขวาล่างขึ้นมาอยู่ฝั่งบนซ้าย ซึ่งสำหรับผมไม่มีประเด็นอะไรที่มันมาอยู่ฝั่งที่ไม่ถนัด เพราะถึงยังไงผมก็เสียบสายสัญญาณคาไว้ตลอดอยู่ดี

Connections ด้านหลังมีแจ๊คลำโพง, ฟุตสวิทช์, Effects loop และ tube biasing เป็นองค์ประกอบที่เรียบง่าย ไม่มีลูกเล่นหวือหวา แต่ครบถ้วนเพียงพอต่อการใช้งานจริงของผม เพราะตัวเองเคยมีแอมป์ที่ลูกเล่นอัดเต็มพรืดไปหมด (มันคือ Mesa Triple Crown) แต่หลังจากใช้มันอยู่เป็นปี ความจริงที่พบก็คือ ผมก็คือผมซึ่งเป็นผู้ใช้แอมป์หลอดสไตล์อนาล็อกๆ ลูกเล่นทันสมัยต่างๆ สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ใช้ หรือถ้าจะใช้ ก้อนบนบอร์ดมันก็ทำแทนได้หมด จากประสบการณ์ของตัวเองผมสรุปได้ว่าสิ่งที่ผมต้องการให้มีด้านหลังหัวแอมป์ มีแค่ effects loop เท่านั้นเอง
นอกจากนี้อีกสิ่งที่ผมชอบก็คือตะแกรงด้านหลัง ดูโปร่งๆ ดูน่าจะระบายความร้อนได้ดี

เปิดตะแกรงหลังออกจะเจอหลอดพาวเวอร์ฐานสีแดง 2 อันโดดเด่นอยู่ตรงกลาง เมื่อดูใกล้ๆ ก็จะเห็นว่าใช้หลอด 6L6GC Red Base ของ Tube Amp Doctor (TAD)



ฟุตสวิทช์ที่แถมมาให้เป็นรุ่น FS1M ขนาดเล็กน่ารักกะทัดรัดประหยัดพื้นที่บนบอร์ด มีปุ่มกดแบบ latching เพียงปุ่มเดียวไว้กดเปลี่ยนแชแนล แว้บแรกผมรู้สึกแปลกตากับขนาดของ FS มาก แต่ดูๆ ไปแล้วก็ เออ เข้าท่านะ ในเมื่อฟังก์ชันมันมีแค่ปุ่มกดสลับแชแนล แล้วจะทำใหญ่ๆ ให้เกะกะทำไม เอาจริงมันสามารถบีบขนาดลงได้จนเหลือเล็กแค่นี้เอง ดีจะตาย


ขอฟังเสียงหน่อย
ผมจัดการต่อแอมป์เข้ากับแผงเอฟเหคท์ที่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าดีเลย์กับ overdrive อย่างละก้อน ออกตู้ ENGL 2×12 ดอกผสม Celestion V30 กับ Celestion G12-T75 เพื่อความสมดุลระหว่างย่านทุ้มกับย่านแหลม ผมเปิด Bright switch ของทั้ง 2 แชแนลทิ้งไว้ตลอดการทดสอบ เพราะชอบความสว่างๆ เป็นรสนิยมส่วนตัวครับ
Clean channel

ผมตั้ง EQ Clean channel ไว้ประมาณในรูป (Master เปลี่ยนขึ้นลงบ้างตามความแรงของกีตาร์ที่ใช้) เนื้อเสียงคลีนใส สว่าง โปร่ง ฟังเพราะ ไม่เหมือนแอมป์แนวแตกหนักหลายๆ รุ่นที่เคยลองมาซึ่งแชแนลคลีนจะแข็งมาก เหมือนมีกันไปงั้นๆ
ย่านโลว์เป็นตัวดี หัวโน้ตใหญ่กระชับฟังดูเป็นลูกกว่าพวกแอมป์ EL34 และก็เป็นโทนคลีนที่ไม่แข็งอย่างแอมป์หลอด 6L6 ในท้องตลาดหลายๆ รุ่น ผมเร่ง gain (PRS ใช้คำว่า Volume เนื่องจากปริมาณเกนมีผลต่อระดับความดังด้วย) ขึ้นไปมากกว่าในรูป แต่แชแนลนี้ก็แทบไม่มีความแตก แชแนลคลีนคือแทบจะคลีน 100% แทบไม่ break up เลย จึงมี headroom เหลือเฟือ
ผมมองว่า Clean channel ของมันเหมาะกับการใช้เล่นเป็น pedal platform มากกว่าจะเอามาใช้ทำ crunch tone ด้วยตัวมันเอง คือถ้าอยากเล่นโทนแตกอ่อนหรือ crunch ตอนใช้แชแนลนี้ ต้องมีก้อนแตกช่วย หรืออีกวิธีนึงก็คือใช้ Lead channel เดี๋ยวผมจะอธิบายต่อไปครับ
Lead channel

Archon v.2 ล็อต 6L6 หัวนี้ แม้คาแรคเตอร์โทนแตกจะยังมีความเป็น v.2 ล็อตปีแรกที่ผมเคยลองตอนปี 2022 (ล็อตนั้นใช้หลอด 6CA7) คือไปทางสว่าง ใส เปิด โปร่ง มี harmonic เพราะๆ ให้เล่นโซโล่ได้เพลินคล้ายๆ หลอด EL34 แต่คราวนี้พอเป็นหลอด 6L6 แล้ว รู้สึกว่าคาแรคเตอร์นั้นถูกเติมย่านโลว์กระชับๆ ให้เสียงเบสตอบสนองไวขึ้น โมเดิร์นขึ้น ริฟฟ์สนุกขึ้น ดีขึ้นไปอีก ไม่รู้ว่าที่ PRS ปรับสเปคหลอดครั้งนี้ เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปจากโทนของล็อตหลอด 6CA7 หรือเปล่านะครับ
นอกจากนี้ Lead channel ยังมีไดนามิคที่ดีพอสมควร คือเมื่อลดวอลุ่มที่กีตาร์ลงความแตกของแอมป์ก็ลดลงกลายเป็นโทน crunch สนุกๆ ได้ แต่ถ้ากีตาร์แรงๆ แบบของผมก็ต้องลดวอลุ่มลงไปเยอะถึงประมาณ 2-3 ถึงจะได้ยินความเปลี่ยนแปลงชัด แต่สำหรับกีตาร์ทั่วไปที่ output ต่ำ ไปถึงปานกลาง น่าจะลดวอลุ่มลงไปไม่เกินครึ่งทางก็ได้ใช้ crunch tone หล่อๆ ของแอมป์รุ่นนี้แล้ว ส่วนตัวผมว่ามันฟังดูดีกว่าใช้เสียงแตกจากก้อน overdrive เล่นในแชแนลคลีน แต่ก็แล้วแต่คนชอบนะครับ เอาเป็นว่า ถ้าอยากใช้เสียงแตกอ่อนมันก็มี 2 วิธีตามที่ผมได้บอกไปนั่นเองครับ
ความกระชับของย่านโลว์ของมันดีขนาดว่าผมใช้กีตาร์ 7 สาย ดรอป G# ก็เล่นได้ไม่มีปัญหา มันอาจไม่ได้กระชับสุดขีดเท่าพวก ENGL Fireball ที่ผมเคยใช้มา แต่ส่วนตัวผมถือว่าความ lows tightness ที่มีมาให้ระดับนี้ ถือว่าโอเคแล้วสำหรับการเล่นริฟฟ์ ถ้ากระชับกว่านี้ เวลาเล่นด้วยกีตาร์ปกติมันอาจจะฟังดูแข็งเกินไปได้ อันนี้คือตัวอย่างที่ผมเทสต์ด้วยกีตาร์ 7 สาย ครั้งแรกที่ร้านตัวแทนจำหน่ายครับ
เทียบกับเวอร์ชันแรก (Made in USA) เสียงต่างกันยังไง
Archon v.2 ไม่ว่าจะเป็นล็อตที่มากับหลอดเบอร์ 6CA7 หรือ 6L6 จะออกสว่างกว่า ย่านกลาง/แหลมมากกว่า โปร่งกว่า v.1 ซึ่งหนักไปทางย่านต่ำ/กลาง มากกว่า ให้โทนที่ทุ้ม/หม่น/ดาร์ค กว่า v.2 ส่วนปริมาณเกนผมว่าพอๆ กันครับ
แล้วถ้าเทียบกับรุ่น MT15 ล่ะ?
MT15 โลว์แน่นกว่า และย่านกลางแหลม น้อยกว่า รวมๆ ออกไปทาง ดาร์ค หม่น ทุ้มกว่า Archon v.2 ชัดเจนครับ
แต่มีประเด็นนึงที่เป็นปัญหาโลกแตกของ MT15 คืออาการ volume taper กระโดด จากเบาแทบไม่ได้ยินหมุนขึ้นนิดเดียวกลายเป็นดังลั่นบ้านทั้งๆ ที่เป็นแอมป์กำลังขับเพียง 7/15 วัตต์ ผมเคยใช้แอมป์ MT15 มาก่อน มันหรี่เบาไม่ได้จริงๆ จนผมต้องทำก้อนหรี่วอลุ่มขึ้นมาใช้เองเพื่อหรี่ preamp section volume ตามคลิป
แต่แอมป์ Archon 50 ไม่มีปัญหาอย่างนั้นเลย เนื่องจาก Master volume ของมันสามารถไล่วอลุ่มได้เนียนมากโดยที่โทนเสียงแทบไม่ดรอปลง ถ้าเราหรี่ความดังลงด้วย Master แล้วเราก็หมุน Volume (gain) ขึ้นเพื่อชดเชยกัน เพียงแค่นี้ผมก็สามารถใช้แอมป์ Archon กำลังขับ 50 วัตต์เน้นๆ เล่นในคอนโดได้อย่างสบาย นอกจากนี้การที่ Archon v2 ให้ย่านกลางแหลมที่เด่นกว่า MT15 ก็ช่วยให้หูเราได้ยินรายละเอียดของเนื้อเสียงได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเร่งความดังช่วยมากนัก
ข้อสังเกตจากการใช้งาน
- เมื่อเปิดแอมป์และหลอดเริ่มอุ่นขึ้น จะมีเสียงวิทยุเข้าเบาๆ ซึ่งเสียงวิทยุแทรกนี้ผมไม่สามารถหยุดหรือปิดมันได้ แต่พอเล่นๆ ไป เสียงรบกวนเหล่านี้จะหายไปเอง (หรือผมไม่ได้ยินเสียงวิทยุแทรกเพราะมีเสียงกีตาร์ดังกลบ?) แต่ต้องบอกว่าผมใช้งานมันบนคอนโดชั้นที่สิบกว่าๆ และอยู่ใกล้สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งด้วย (ตอนลองที่ร้านไม่ได้ยิน) เป็นไปได้ว่านี่อาจเป็นปัจจัยเอื้อให้มีสัญญาณแทรก ทั้งนี้เสียงวิทยุที่ได้ยินนั้นเบามากนะครับ ห้องต้องเงียบจริงๆ และเงี่ยหูฟังใกล้หน้าตู้เลย ถึงจะพอได้ยิน
- Lead channel มี noise พอสมควร แต่เปิดมาบางครั้งก็เบา ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร ต้องระวัง noise ที่จะยิ่งมากขึ้นเมื่อเปิดใช้ก้อน OD เพื่อบูสต์แชแนล 2 ดังนั้นผมขอแนะนำว่า
- ควรแน่ใจเรื่องมาตรฐานไฟบ้านตัวเองพอสมควรว่าสะอาด ไม่รบกวนการทำงานของมัน
- ก้อน OD ที่จะเอามาบูสต์ในแชแนลแตก ก็ต้องเซ็ท drive level ไว้ไม่ให้มากไป
- นอกจากนี้ หากมีก้อน noise gate ใช้ร่วมด้วย ก็จะยิ่งดีครับ
- ไม่มี Stand by switch อันนี้ฟังดูเหลือเชื่อ แต่เขาทำมาแบบนี้จริงๆ ซึ่งการออกแบบเช่นนี้ทาง PRS เคลมว่าวงจรภายในออกแบบมาให้สามารถเปิดเครื่องได้ไม่ต้องมี Stand by switch หากต้องการ mute แอมป์ ให้ดึงสายสัญญาณออกจากรู Input หน้าแอมป์แทน (เขาบอกไว้อย่างนี้จริงๆ อ่านคู่มือดูได้) แต่สิ่งที่ผมเห็นว่าเป็นปัญหา คือตอนที่ปิดเครื่องจะมีเสียงดัง ‘ปุ้!’ ออกลำโพง แทบทุกครั้ง ดังแรงบ้างเบาบ้างแต่มักมีให้ได้ยิน ผมลองผิดลองถูกหาวิธีที่จะสามารถปิดแบบเงียบๆ เช่น เปลี่ยนแชแนลเป็นคลีน ปิดเอฟเฟคท์ทุกก้อน ทิ้งช่วงก่อนปิด 5-10 นาทีแล้ว ก็ยังดัง ดึงสายสัญญาณออกก่อนปิด ก็ไม่ช่วย
สรุปแล้ว มันเหมาะกับใคร
จุดเด่น
- เสียงดีมาก ไม่ใช่แค่แตกแรง แต่โทนยังใช้ได้กว้าง
- ถูกออกแบบมาให้แยก EQ, แยก Master volume, แยก Bright switch แชแนลใครแชแนลมัน ทำให้สามารถปรับเสียงได้อิสระ หน้าตาดูเรียบง่ายแต่ใช้งานได้ยืดหยุ่นเหลือเชื่อ
- Master volume ทำมาดีมาก หรี่เสียงเบาในระดับซ้อมในห้องนอนได้สบาย และใช่ครับ มันหรีเสียงได้ง่ายกว่า MT15
- ใช้หลอดคุณภาพดี
เหมาะกับ…
- คนที่ต้องการแอมป์ high gain ที่ใช้งานได้กว้าง ป๊อป หมอลำ ยันเมทัล และเสียงดีไม่ว่าเปิดดังหรือเปิดเบา
- คนที่ชอบโทนใหญ่ๆ clean headroom เต็มอิ่ม สไตล์แอมป์ PRS Archon เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
- คนที่สามารถรับมือกับปัญหาจุกจิกที่ผมได้บอกไปแล้ว หรือมีประสบการณ์การใช้แอมป์ของ PRS มาก่อน (แบบผม เป็นต้น)
- คนที่อยากเริ่มต้นกับแอมป์ของ PRS ส่วนตัวผมอยากแนะนำรุ่นนี้มากกว่ารุ่นอื่นในค่าย
แต่ไม่เหมาะกับ…
- คนที่ซีเรียสกับคุณภาพงานผลิต เพราะแอมป์รุ่นนี้ยังมีสิ่งที่ควรปรับปรุง แม้จะไม่กระทบต่อคุณภาพเสียงก็ตาม
ส่งท้าย
สำหรับรีวิวแอมป์ PRS Archon 50 v.2 ของผมก็จะมีประมาณนี้นะครับ ใครสนใจอยากทดสอบบ้างก็แวะไปได้ที่ร้าน Music Collection (แนะนำว่าควรทักแชตไปถามก่อนว่ามีของสาขาไหนบ้าง เนื่องจากอาจไม่มีให้ลองที่ทุกสาขา) ราคา ณ เดือนสิงหาคม 2024 อยู่ที่ 42000 บาทครับ
