
โมดิฟาย ทำสี PRS SE SVN ตอนที่ 5 ติด side dot เรืองแสง
หลังจากห่างหายการเขียน blog ไปหลายเดือนก็ขอกลับมาว่ากันต่อสำหรับ series งานโมดิฟายแบบ ยกเครื่อง กีตาร์ PRS SE SVN 7 สายของผม สำหรับตอนที่ 5 นี้ว่ากันด้วยการติด side dots เรืองแสง
สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่าน 4 ตอนแรก ผมรวม link ไว้ให้ดังนี้นะครับ
ตอนที่ 1 การเตรียมงาน วัสดุอุปกรณ์
ตอนที่ 2 การติดวีเนียร์ลายเฟลม
ตอนที่ 4 การติดตั้งปิคอัพแบบ direct mount
คือระหว่างขั้นตอนการทำสีและพ่นเคลือบนั้น ผมเกิดปิ๊งไอเดียว่า ช่วงที่กีตาร์แขวนผึ่งลมไว้เฉยๆเนี่ย น่าจะลองเพิ่มงาน DIY เก๋ๆ ดูอีกสักอย่าง คือเปลี่ยนจุดอินเลย์ข้างฟิงเกอร์บอร์ด (side dots) จากพลาสติกสีขาวๆ ให้เป็นวัสดุเรืองแสง ซึ่งเป็นไอเดียที่เราจะพบเห็นได้จากกีตาร์สไตล์โมเดิร์นที่ออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้งานยุคใหม่เป็นสำคัญมากกว่า tradition โบราณๆ แบรนด์กีตาร์ที่มีการใช้วัสดุเรืองแสงมาทำ side dot (บางรุ่น) ก็เช่น Mayones, Jackson HT, Kiesel ฯลฯ
จุดประสงค์ของ side dots เรืองแสงพวกนี้ก็เพื่อความสะดวกในการมองตำแหน่งของเฟรทในที่ที่มีแสงน้อย เช่น บนเวทีคอนเสิร์ตสลัวๆ หรือในร้านเหล้าตอนกลางคืน ส่วนผมแค่อยากลองติดเองเล่นๆ เป็นประสบการณ์เฉยๆ
เท่าที่ผมทราบ วิธีทำจุดเรืองแสงมีอยู่ 2 แนวทาง ได้แก่ 1) ทำเองด้วยการผสมผงเรืองแสงโดยมีตัวประสานที่เป็นของเหลวระเหยได้ กับ2) ใช้วัสดุสำเร็จรูป ที่นิยมใช้กันในระดับอุตสาหกรรมก็มักจะเป็นวัสดุเรืองแสงสำเร็จรูปยี่ห้อ Luminlays ซึ่งมีหลายแบบหลายขนาดให้เลือก แต่ด้วยราคาของ Luminlays ซึ่งค่อนข้างสูง (ราคารวมส่งประมาณ 800 บาทสำหรับกีตาร์ 2-3 ตัว) อีกทั้ง ณ วันที่ผมกำลังโมดิฟาย SE SVN ตัวนี้ เจ้าวัสดุชิ้นนี้ยังไม่มีขายในไทย ผมจึงลองหาวัสดุที่มีราคาต่ำกว่าและหาได้ง่ายในบ้านเรา ผมจึงเริ่มทดลองใช้วิธีแรกดูก่อน เผื่อรอดจะได้เซฟงบได้บ้าง ทำอย่างไรนั้น ตามมาครับ
โปรดทราบ!
เช่นเดียวกับที่ผมเคยบอกแล้วในขั้นตอนการทำ direct mount คือการฝังเม็ดเรืองแสงต่อไปนี้ คืองานในส่วนของโครงสร้าง ซึ่งควรต้องทำให้เสร็จก่อนขั้นตอนการลงสี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือ ผมทำสีไปแล้วดันเพิ่งมาผุดไอเดียฝังเม็ดเรืองแสง ภาพประกอบในขั้นตอนนี้จึงเป็นภาพเหตุการณ์ที่ผมทำสีท็อปไปแล้ว แต่ผมขอเอาเนื้อหาในส่วน side dots นี้ มาเสนอต่อจากงานแปะวีเนียร์ เพื่อจะได้ลำดับงานที่ถูกต้องอย่างที่มันควรจะเป็น (คืองานโครงสร้างต้องเสร็จก่อนงานสีและงานเคลือบ) ดังนั้นขอให้เพื่อนๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้เข้าในในส่วนนี้ด้วยนะครับจะได้วางแผนการทำงานตามลำดับที่ถูกต้องครับ
5.1ลองทำ Side dots เรืองแสงจากผงเรืองแสง
วัสดุอุปกรณ์ที่ผมใช้
- ผงเรืองแสงปริมาณ 20 กรัม (สั่งซื้อมาจาก Lazada ราคาร้อยกว่าบาท)
- น้ำยาเคลือบเล็บขวดเล็กๆ มาจากร้านสะดวกซื้อ
- สว่านสายอ่อน พร้อมหัวเกลียวเจาะ
- คัตเตอร์ปลายแหลมๆ หรือมีดแกะสลักคมๆ
- cutton buds ปลายเล็กๆ
- แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาล้างเล็บ (acetone)
- กระบอกเข็มฉีดยาอันเล็กๆ (ไซริงค์)
- ไม้จิ้มฟัน
วิธีการทำ side dots เรืองแสงแบบบ้านๆ มีดังนี้ครับ
- ผมเริ่มจากการเอาหมุดพลาสติกของเดิมออกก่อน หมุดพวกนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 มิลลิเมตร และถูกฝังไว้ลึกประมาณ 2-3 มิลลิเมตร วิธีการของผมคือเริ่มจากพยายามแกะออกด้วยมีดแกะสลัก แต่ไม่เป็นผลเพราะหมุดแข็งแถมติดกาวไว้แน่น จึงใช้สว่านใส่ดอก 3 มิลเจาะทำลายหมุดำลาสติก ซึ่งก็ได้ผล แต่ข้อเสียคือ หลุมที่เกิดจากการเจาะทำลายหมุดจะกว้างกว่าขนาดหมุด 1 มิล ซึ่งจะเป็นปัญหาสำหรับเฟรทในๆ เนื่องจากขอบฟิงเกอร์บอร์ดแคบลงเล็กน้อยเพื่อชดเชยการทำมุมของคอที่เอียงเข้าหาตัวผู้เล่น เนื้อไม้ฟิงเกอร์ระหว่างหน้าบอร์ดถึงรูเจาะในช่วงเฟรทในๆ จึงบางมาก จนเกิดการปริแตกเมื่อผมใช้สว่านขนาด 3 มิลลิเมตรในการเจาะ ดังนั้นผมจึงขอแนะนำว่า ถ้าจะใช้วิธีเจาะ ต้องระวังอย่าใช้ดอกสว่านหรือเครื่องมือที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกิน 2 มิลลิเมตรนะครับ
- ใช้มีดแกะสลัก หรืออะไรก็ได้ที่เป็นโลหะแข็งๆ ปลายเรียวเล็ก แซะเอาเศษพลาสติกที่ติดอยู่ก้นหลุมออกให้หมด
- ใช้ก้านสำลี cutton buds ชุบแอลกอฮอล์หรือ acetone เพื่อเช็ดทำความสะอาดก้นหลุม
- ผสมผงเรืองแสงกับน้ำยาเคลือบเล็บ ผมไม่รู้ว่าสัดส่วนเท่าไหร่จึงจะพอดี แต่ใช้วิธีรินน้ำยาแบ่งออกไปพักในแก้ว ให้เหลือน้ำยาประมาณ 2/3 ขวด (เพราะน้ำยาเคลือบเล็บ เดิมๆใส่มาเกือบเต็มขวด จนไม่เหลือพื้นที่ให้ใส่ผงลงไป) แล้วค่อยๆ เทผงเรืองแสงลงในขวดช้าๆ สลับกับการคนด้วยไม้จิ้มฟันหรือไม้จิ้มฟันหรือไม้อะไรเล็กๆ แข็งๆ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนเริ่มรู้สึกว่าเนื้อน้ำยาเริ่มข้นเหนียวจึงหยุด ถ้าคิดว่ามันยังจางไปก็เอาน้ำยาเคลือบที่รินออกไว้ในตอนแรก กลับมาเติมในขวดอีกครั้งเพื่อเป็นตัวทำละลาย
- ใช้กระบอกฉีดยา ดูดน้ำยาเรืองแสงขึ้นมา ไม่ต้องเยอะ แล้วค่อยๆ หยอดลงในหลุม side dots ที่เราขุดไว้ ช้าๆ ไม่ต้องออกแรงกดเข็มมากเพราะแต่ละหลุม เราใช้ปริมาณไม่ถึงหยดด้วยซ้ำ ใช้ไม้จิ้มฟันแหย่ๆ กวนๆ เบาๆ เพื่อไล่ฟองอากาศที่อาจค้างในหลุม
- ทิ้งไว้ให้แห้ง วางกีตาร์ในแนวนอน เอาไว้ในพื้นที่ปลอดภัยไกลมือเด็ก
- ใช้ล้างกระบอกฉีดยาดูดน้ำยาล้างเล็บและฉีดออก ทำซ้ำๆ เพื่อล้างทำความสะอาด
- เมื่อสารเรืองแสงที่หยอดหลุมไว้ แห้งดีแล้ว กำจัดน้ำยาเรืองแสงส่วนเกิน โดยใช้คัตเตอร์คมๆ ปาดส่วนบน (ถ้ามีเยอะ) แล้วใช้กระดาษทรายเบอร์ 600 ค่อยๆขัด ปรับพื้นผิวขอบบอร์ดทั้งหมด คือทั้งส่วนที่หยอดน้ำยาและพื้นขอบบอร์ดให้เรียบเสมอกัน





ผมดูแล้ว แม้งาน side dots เรืองแสงจากผงเรืองแสงราคาสองร้อยบาทจะเรืองแสงสว่างสดใสตรงตามที่อยากเห็น แต่ก็มีปัญหาแก้ไม่ตกเกี่ยวกับการเก็บงาน คือหลังจากขัดวัสดุเรืองแสงส่วนเกินเพื่อเก็บงานปรับระดับจนเรียบเสมอขอบบอร์ดแล้ว ผมพบว่า สารเรืองแสงถูกเศษฝุ่นผงไม้จากกระดาษทรายติดเป็นคราบดำๆ ดูสกปรก เนื่องจากผงเรืองแสงนั้นมีความหยาบมาก เมื่อถูกขัดเปิดผิว มันจะเกิดหลุมขรุขระเล็กๆในเนื้อของมัน (นึกถึงเวลาเราลูบผิวหน้ากระดาษทรายเบอร์ละเอียด) ทำให้สิ่งสกปรก/ขี้เลื่อยของไม้ที่ถูกขัดไปติดอยู่ในเนื้อหมุดเรืองแสงแบบ DIY นี้ จะเอาสิ่งสกปรกออกก็ไม่ได้ ยิ่งขัดก็ยิ่งเลอะ เอาอะซีโตนเช็ดก็ออกไม่หมดแถมกลายเป็นว่ายิ่งเช็ดยิ่งดำ ผมเจอทางตันของการ DIY side dots เรืองแสงในขั้นตอนเก็บงานนี่เอง 😢
เนื่องจากผลงานตามแผน 1 เสร็จออกมา เละ ไม่ผ่าน ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนไปแผน 2 คือการใช้ Luminlays ครับ

5.2ติด Side dots ของ Luminlays
Luminlays คืออะไร?
เมื่อวิธีผสมวัสดุเองนั้น ไม่เวิร์ค ผมจึงเปลี่ยนมาใช้แผนสอง คือใช้วัสดุสำเร็จรูปที่เรียกว่า Luminlays (ลูมินเลส์) มันคือชื่อวัสดุเรืองแสงที่ออกแบบมาสำหรับฝังบนฟิงเกอร์บอร์ดกีตาร์เพื่อความสะดวกในการมองตำแหน่งของเฟรทเมื่อต้องเล่นในที่มีแสงน้อย (เช่น บนเวทีในร้านเหล้า หรือคอนเสิร์ตที่ต้องเปิดไฟสลัวๆ เพื่อสร้างบรรยากาศ) ผลิตโดยบริษัท Meister Works ของญี่ปุ่น Luminlays มีรูปทรงเป็นแท่งทรงกระบอกอันเล็กๆ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ 2 มิลลิเมตรไปถึง 7 มิลลิเมตร มีสีให้เลือกสองสี คือสีฟ้า (รหัส SB หมายถึง super Blue Series) และสีเขียว (SG หรือ Super Green Series) ลักษณะการทำงานก็เหมือนวัสดุเรืองแสงทั่วไปคือมันชาร์จแสงที่ส่องใส่ตัวมัน และสว่างเรืองในที่มืด ถ้าชาร์จเต็มที่ มันจะเรืองอยู่ได้นานทั้งคืนเลยแหละ
ชื่อ Luminlays ผมคิดว่าน่าจะเกิดจากการสนธิคำว่า luminescent (เรืองแสงได้) กับ inlays (อินเลย์/วัสดุฝังในพื้นผิว) เข้าด้วยกัน แปลตรงตัวภาษากีตาร์ไทยๆ ได้ว่า วัสดุสำหรับใช้ฝังเป็นอินเลย์กีตาร์ซึ่งเรืองแสงได้ ซึ่งก็เป็นชื่อที่เท่ และสื่อความชัดเจนดี สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่เว็บ Luminlays ครับ
วัสดุอุปกรณ์
- กระดาษกาว 3M
- วัสดุ Luminlays
- สว่านสายอ่อน พร้อมดอกสว่านขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่าขนาดเม็ด Luminlays ที่จะใช้ หรือวัสดุอื่นใดที่สามารถขุดวัสดุอินเลย์เดิมออกไป
- หัวขัดไม้สำหรับใช้กับสว่านสายอ่อน
- ก้านสำลีปั่นหู (cutton buds) หัวขนาดเล็กๆ
- แอลกอฮอล์ล้างแผล
- กาวตราช้าง พร้อมหัวต่อเรียวเล็กสำหรับหยอดกาวในที่แคบ
- แหนบถอนขน
ขั้นตอนการฝัง Luminlays
สิ่งที่ต้องบอกก่อน คือ โดยปกติแล้ว จุด side dots ของกีตาร์จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 มิลลิเมตร แต่เนื่องจากผมคว้านรูเดิมเสียกว้างกว่านั้น (เพราะอยากได้จุดเรืองแสงใหญ่กว่าปกติเพื่อความสะใจ เพราะไหนๆ ผมก็เลือกเองได้อยู่แล้ว ก็อยากทดลองอะไรที่มันสุดๆ ไปเลย) ผมจึงต้องสั่งซื้อ Luminlays ไซส์ 3 มิลลิเมตร ซึ่งมันใหญ่กว่านี้ไม่ได้แล้ว เพราะความกว้างของขอบฟิงเกอร์บอร์ดไม่พอรองรับ
ผมสั่งรุ่น SB30 มา ความหมายคือเป็นสีฟ้า ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 มิลลิเมตรและไม่มีผนังท่อสีดำๆ หุ้มท่อ ที่จริงสีเขียวจะสว่างกว่าเล็กน้อย แต่ผมว่าสีฟ้าดูสวยกว่า เลยเลือกสีนี้ ราคาที่สั่งจากเว็บ Ebay.com SB30 ความยาว 6 เซนติเมตร ราคารวมส่งถึงมือประมาณ 800 บาท ใช้เวลาเพียงประมาณอาทิตย์เดียวก็ได้ของ (ไม่เสียภาษีนำเข้า)
- แนะนำว่าควรแปะกระดาษกาวบริเวณหลังคอถัดจากขอบฟิงเกอร์บอร์ด เพื่อป้องกันความสกปรกที่จะกระเด็นไปติดจากงานฝังอินเลย์ไว้ก่อนเริ่มงาน แต่ผมมาแปะเอาตอนที่จะหยอดกาวเพื่อป้องกันกาวไหลเลยลงไปโดนคอ (แต่ฟิงเกอร์บอร์ดผมแปะกระดาษกาวไว้อยู่แล้ว)
- ใช้สว่านสายอ่อนใส่ดอกเจาะขนาด 3 มิลค่อยๆเจาะเอาเนื้อผงเรืองแสงที่ทำไว้รอบที่แล้ว ออกไป ต้องระวังการจับสว่านให้ดีอย่าให้ดิ้นไปมา
- เสร็จแล้วใช้ cutton buds ชุบแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดก้นหลุม
- นำแท่ง Luminlays มาตัดเป็นท่อเล็กๆ ความยาวท่อนละประมาณ 3 มิลลิเมตร หรือลองแหย่ก้านลงในหลุม side dots ก่อนก็ได้เพื่อกะความยาวที่จะตัด ต้องกะความยาวให้โผล่พ้นขอบบอร์ดเล็กน้อย อย่าตัดสั้นเกินเพราะจะโผล่ไม่พ้นขอบบอร์ดและกลายเป็นเสียของ แต่ถ้าเหลือยาวไปก็จะเปลือง การตัดนั้นแนะนำว่าอย่าใช้คัตเตอร์ตัดกระดาษทั่วไป เพราะ Luminlays นั้นแข็งเหลือเชื่อ (กว่าจะตัดเสร็จล่อคัตเตอร์ผมใบบิ่นไป 2 อัน) และด้วยความแข็งของมัน ท่อนสั้นเมื่อถูกตัดออกมันจะดีดตัวออกไปอย่างรวดเร็ว จึงควรหาอะไรมาป้องกันท่อน Luminlays ราคาแพงหล่นหาย
- จัดกีตาร์วางใช้กาวตราช้างสวมหัวต่อสำหรับหยอดกาวในที่แคบ ค่อยๆหยอดกาวลงก้นหลุม หยอดไว้สักครึ่งค่อนหลุม
- ใช้แหนบคีบเม็ด Luminlays ที่ตัดไว้ ค่อยๆ หย่อนใส่ลงหลุมจนครบทุกหลุม
- ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง เพราะแม้สว่านที่ผมใช้จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับเม็ด Luminlays แต่ในความเป็นจริงหลุมที่เจาะได้จะกว้างกว่าเม็ด Luminlays อีกนิดหน่อยทำให้เม็ด Luminlays จะไม่ฟิตพอดีหลุม พูดง่ายๆคือมันไม่แตะโดนผนังหลุมได้แนบสนิทพอที่กาวจะประสานให้มันติดได้ทันที เพราะกาวตราช้างนั้น ถ้าหากติดกับวัสดุที่ขอบไม่ชนกันแนบสนิทมันจะใช้เวลาแห้งตัวนานกว่าปกติ ดังนั้น เมื่อฝังเมล็ดและหยอดยาวครบทุกหลุมแล้ว ผมจึงวางกีตาร์ไว้ในแนวนอนทิ้งไว้ 1 วันเต็ม เพื่อให้แน่ใจว่ากาวแห้งและแข็งถึงก้นหลุม เหตุผลที่ผมต้องการความแข็งแรงในการยึดเกาะ ก็เพราะเดี๋ยวผมจะใช้เครื่องมือโหดในขั้นตอนถัดไป
- หลังจากกาวแห้งแข็งดีแล้ว ผมเปลี่ยนหัวสว่านสายอ่อนเป็นหัวขัดกลมๆ ขัดเก็บงานให้เรียบเสมอขอบบอร์ด เช่นเดียวกับที่ทำตอนท้ายของวิธีผสมผงเรืองแสง
- อาจใช้กระดาษทรายละเอียดขัดเก็บงานอีกทีเพื่อความสมูธ
สรุปผลงานฝัง Luminlays
ผลที่ได้นั้นน่าพอใจมาก งานเสร็จแล้วดูมีความเป็นมืออาชีพ คือสะอาด เนี้ยบ ขนาดเท่ากันเป๊ะทุกเม็ด (ถ้าจะมีอะไรไม่เป๊ะก็คงเป็นแนวการเจาะของผมที่เบี้ยวในเฟรทสุดท้ายนี่แหละ) ดังนั้นผมสรุปให้เลยว่า ถ้าจะติดอินเลย์เรืองแสงเอง แนะนำใช้ Luminlays ดีกว่าผสมผงเองครับ อาจดูแพง แต่งานที่ได้นั้นดีกว่า สวยกว่า จบกว่า อีกทั้งความยาว 6 เซนติเมตรที่ได้มานั้น เพียงพอสำหรับการติดขอบบอร์ดกีตาร์ 24 เฟรท ได้ 2 ตัว คิดเสียว่าลงทุนตัวละ 400 บาทได้ใช้ของดีไปตลอดอายุขัยของกีตาร์ มันก็คุ้มเกินคุ้ม
5.3 สรุป
อาจมีคนสงสัยว่า ในแง่ของความสว่างและระยะเวลาของการเรืองแสงเมื่อเทียบกันระหว่างผงเรืองแสงถูกๆ กับ Luminlays แล้ว อย่างไหนมีประสิทธิภาพเหนือกว่า ผมก็ตอบได้เลยว่า ไม่ต่างกัน นะครับ ผมทดสองจากการวางผงเรืองแสงที่ยังเหลือไว้ใกล้ๆกับ Luminlays ที่ติดเสร็จแล้ว ตอนปิดไฟนอนก็เห็นว่าความสว่างของทั้งสองอย่างนั้น แทบไม่ต่างกันเลย (อาจมีความแตกต่างแต่แต่น้อยมากจนผมแยกแยะไม่ออก) และตอนผมตื่นมาฉี่ประมาณตีสี่ ผมก็เห็นว่าทั้งคู่ก็ยังมีความสว่างเพียงพอให้เห็นได้ว่ามีสิ่งเรืองแสงอยู่ตรงนั้น และมีความเข้มของแสงที่ใกล้เคียงกัน
ผมจึงสรุปได้ว่า ทั้งผงเรืองแสงผสมเองและ Luminlays มีประสิทธิภาพการเรืองแสงไม่ต่างกันเลย เพียงแต่ Luminlays ได้เปรียบในแง่ของความสะดวกการติดตั้งมากกว่า ก็เท่านั้นเอง และจากที่ผมทดลองทั้ง 2 วิธี คิดว่าใช้ Luminlays ติดตั้งสะดวกกว่า งานสวยกว่าครับ
สำหรับงานฝังอินเลย์เรืองแสงของผมก็จบลงเท่านี้ครับ หวังว่าเพื่อนๆ น่าจะได้แนวคิดไอเดียจากผมไปบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
ขอแนะนำกลุ่มเฟสบุค PRS Thailand ชุมชนคนรักแบรนด์ Paul Reed Smith ใครสนใจ กดเข้ามา join กันได้ครับ