
เปิดตัว PRS John Mayer Silver Sky!!!
หลังจากเปิดตัว Private Stock Super Eagle รุ่นแพงระยับที่เหมือนเป็นการประกาศย้ายค่ายอย่างเป็นทางการ ต่อมาแฟนๆก็ได้เห็น John Mayer เล่น PRS ทรงสตรัทสีเทาๆ ที่ไม่รู้รายละเอียดว่ามันคืออะไร ปล่อยให้ทั้งแฟนจอห์นและสาวกลุงพอลคาดเดากันไปต่างๆนาๆมานานเป็นปี ในท่ีสุดวันนี้ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว PRS Silver Sky กีตาร์รุ่นลายเซ็นตัวใหม่ made in USA ของ John Mayer ซักที
คอนเซพท์ของกีตาร์ signature รุ่นนี้ที่จอห์นต้องการ คือเป็นกีตาร์ที่มีความเป็นวินเทจ เสียงวินเทจ ฟีลการเล่นวินเทจที่เขาคุ้นเคย แต่มาในรูปลักษณ์ของกีตาร์สมัยใหม่ หลังจากใช้เวลาพัฒนาสองปีกว่า สร้างตัวต้นแบบไป 8 ตัว PRS พัฒนากีตาร์รุ่นนี้ร่วมกับ technician ประจำตัวของจอห์นที่ชื่อ Rene Martinez
สเปค
มีอะไรใหม่ๆในรุ่นนี้บ้าง ไปดูสเปคกันเลย
- รุ่น Silver Sky (อัพเดทข้อมูลสเปค ณ ตุลาคม 2020)
- บอดี้
- แอลเดอร์
- มีการต่อไม้จำนวน 2-3 ชิ้น
- Finish
- 2018 – 2019: เคลือบบอดี้เป็น Polyester สำหรับการเคลือบชั้นล่าง และ Acrylic urethane สำหรับชั้นบน
- 2020 – ปัจจุบัน เปลี่ยนสูตรเคลือบเป็น Nitro over cellulose (CAB)
- คอ
- เมเปิล
- เชพคอ
- 2018 – 2019: 635JM
- 2020 – ปัจจุบัน: มี 2 เชพ คือ
- บอร์ดโรสวูด (คอดำ) ใช้เชพเดิม เปลี่ยนชื่อเป็น 635JM-R
- ส่วนบอร์ดเมเปิลใช้เชพ 635JM ซึ่งปรับเชพใหม่
- เข้าคอด้วยสกรู
- มีเพลทปั๊มชื่อรุ่น
- มีการต่อคอแบบ S2 (scarf joint) คลิกที่นี่เพื่อดูกรรมวิธีทำคอแบบ scarf joint ของ PRS ครับ
- เคลือบไนโตร แบบด้าน
- สเกล – 25.5 นิ้ว
- ฟิงเกอร์บอร์ด
- 2018 – ปัจจุบัน: Indian rosewood
- 2020 – ปัจจุบัน: Maple
- เฟรท – 22 เฟรท โปรไฟล์เฟรทสูงและแคบกว่าเฟรทปกติของ PRS คล้าย Dunlop 6230
- รัศมีความโค้งฟิงเกอร์บอร์ด (fingerboard radius) – 7.25 นิ้ว
- อินเลย์ฟิงเกอร์บอร์ด
- บอร์ดโรสวูด: small birds เลี่ยมด้วยวัสดุสังเคราะห์
- บอร์ดเมเปิล: small hollow birds สีดำ
- Headstock – PRS หัวกลับ
- ลูกบิด – สไตล์วินเทจ ไม่โชว์เฟือง แต่มีกลไกล็อกสายสไตล์ PRS ผลิตโดย Gotoh
- นัท – กระดูก
- ปิคอัพ – ซิงเกิลคอยล์เซ็ท 635 JM แม่เหล็ก alnico ค่า DC resistance 6.4k เหมือนกันทั้งเซ็ท ผลิตในอเมริกา
- Selector – 5 ทางแบบ blade
- Controls – vol, tone, tone ดีไซน์หัวปุ่มให้มีความมนทรงโดม
- Pot. – vol 300k, tone 250k
- Bridge
- แซดเดิลเหล็กพับ (bent steel)
- บล็อกเหล็ก
- กดลงอย่างเดียว
- bridge plate ดีไซน์ตามรุ่น Gen III และเซ็ทมาต่ำเสมอผิวบอดี้
- สกรูทั้ง 6 ตัวเอามาจากคันโยกรุ่น Gen III
- ก้านคันโยกแบบกดล็อกของ PRS ไม่ต้องหมุนเกลียวเข้า มีสกรูปรับความแน่นของรูก้านคันโยกอยู่ตรงท้าย
- หมุดใส่สาย – string tree ของเบส
- Jack – ออกแบบใหม่ ทำจากสังกะสีชุบนิเกิล
- Backplate – ไม่มี
- Accessories – กระเป๋าสะพาย แต่สำหรับ 500 ตัวแรกจะมีเคสรุ่นพิเศษให้ด้วย (บ้านเราตัวแทนสั่งมา 29 ตัว)
- สี
- 2018 – 2019: ขาว Frost, แดง Horizon, ดำ Onyx และเทา Tungsten
- 2019: เพิ่มสี ทอง Golden Mesa, น้ำเงินแกมเขียว Dodgem Blue, เขียว Orion Green เทา Moc Sand
- 2020 – ปัจจุบัน:
- ยกเลิกสีแดงและดำ
- สีพิเศษสีเหลือบ Nebula ผลิตจำนวนจำกัด 500 ตัว
- เพิ่มสีใหม่ คือ ชมพู Midnight Rose, ฟ้า Polar Blue
โดยรวมมันคือกีตาร์สไตล์ strat ที่มีการปรับปรุงมากมายหลายจุดเพื่อรวมความวินเทจและโมเดิร์นเข้าไว้ด้วยกันตามโจทย์ที่จอห์นต้องการ เริ่มจากบอดี้แอลเดอร์ทรงเดียวกับ PRS DC3 มีการต่อไม้บอดี้ 2-3 ชิ้น ภายในโพรงปิคอัพไม่มีการเคลือบเพื่อปล่อยให้ไม้หายใจ บอดี้เคลือบแบบกรรมวิธีล่าสุดสูตรใหม่ที่ใช้ใน 594 กับกีตาร์ระดับ Artist Package คือเป็น Polyester สำหรับการเคลือบชั้นล่าง และ Acrylic urethane สำหรับการเคลือบชั้นบน ซึ่งกรรมวิธีแบบนี้ไม่ใช่การเคลือบแบบ V12
อันนี้สังเกตในโพรงบอดี้ที่ไม่เคลือบกราไฟต์นะครับ ตัวที่ขายจริงมันก็ไม่เคลือบเหมือนๆกันนี่แหละ
คอเมเปิลเข้าคอด้วยสกรู ส่วนชื่อโปรไฟล์คอ 635 JM นั้น เป็นโปรไฟล์ใหม่ ออกแบบให้มีมิติอยู่ระหว่างคอกีตาร์ปี 1963 กับ 1964 ของจอห์น (เขาไม่พูดยี่ห้อ แต่ทุกคนคงรู้ว่าหมายถึงเฟนเดอร์) โดยลุงพอลมองว่า ตัวเลขที่อยู่ระหว่าง 63 กับ 64 ก็คือ 63.5 จึงเป็นที่มาของชื่อ 635 ของคอและปิคอัพกีตาร์รุ่นนี้นั่นเอง
Headstock angle ทำมุมเล็กน้อยตามดีไซน์ปกติของหัวกีตาร์ PRS (หัวของเฟนเดอร์วินเทจจะตรงแหน่วไม่ทำมุม และใช้ string tree กดสายทำมุมแทน ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ลุงพอลไม่ชอบ) ความยาวสเกล 25.5 นิ้ว กับจำนวนเฟรท 22 เป็นเฟรทแบบวินเทจของ PRS คือจะสูงและแคบกว่าเฟรทของพวก Custom ฟิงเกอร์บอร์ดโรสวูดเรเดียส 7.25 นิ้ว โค้งโคตร วินเทจสัส นัทกระดูกติดกับฟิงเกอร์บอร์ดด้วยกาวหนังสัตร์ (hide glue) ส่วนอินเลย์รุ่นนี้มาแปลก เป็นนกขนาดเล็กๆ ตั้งชื่อตรงตัวว่า small birds เป็นวัสดุสังเคราะห์
ส่วนต่อไปคงเป็นสิ่งที่สะดุดตาทุกคนมากที่สุดแล้วมั้ง มันคือ headstock ของ PRS แบบกลับหัว ซึ่งดูแปลกตามาก แต่เขามีเหตุผลที่กลับหัวนะครับไม่ได้กลับเพื่อให้แปลก เหตุผลที่ว่าก็ตามรูปข้างล่างนี้ สังเกตมือซ้ายของลุงพอลนะครับ
อธิบายได้ว่า ที่เขากลับหัวกีตาร์รุ่นนี้ก็เพื่อขยับส่วนปีกแหลมๆที่อยู่ระหว่างลูกบิดสายหนึ่งกับนัทออกไป เพื่อเวลาจอห์นดันสายหลังนัทหรือเล่นเทคนิคอะไรแถวนั้น เจ้าปีก headstock ก็จะไม่เกะกะมือซ้ายนั่นเอง อีกเหตุผลหนึ่งคือเพื่อให้ดันสายหลังนัทได้ง่ายขึ้นเพราะเมื่อกลับหัวแล้วลูกบิดแถวสายเล็กอยู่ไกลนัทมากกว่าแถวสายใหญ่ ลุงพอลบอกว่าเขาต้องจ้างผุ้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบมาช่วยดูตรงนี้ให้ แล้วก็สร้าง headstock จำลองในรูปแบบต่างๆกันถึงกว่า 50 แบบกว่าจะมาจบที่หัวแบบที่เราเห็นอยู่นี้ ลูกบิดดีไซน์ใหม่ออกแบบโดย PRS ผลิตโดย Gotoh ถูกออกแบบให้มีสไตล์วินเทจแต่มีกลไกล็อกสายของ PRS (ขันล็อกจากด้านหน้า) tuning button สีเทาขนาดใหญ่ housing ด้านหลังปิดไว้ไม่โชว์เฟือง ส่วน truss rod ของกีตาร์รุ่นนี้เป็นแบบ double action มีฝา cover ทรงเฉพาะรุ่น
ในส่วนของระบบไฟฟ้า ปิคอัพเป็นรุ่นพัฒนาขึ้นมาใหม่ชือรุ่น PRS 635JM เป็นซิงเกิลคอยล์ที่พัฒนาต่อยอดจากกีตาร์ปี 63 – 64 ของจอห์น เป็นแม่เหล็ก alnico มี DC resistance 6.4k เท่ากันหมดทั้ง 3 ตัวเนื่องจากมีจำนวนการพันรอบเท่ากันเป๊ะทั้งเซ็ทซึ่งเป็น pickup configuration ที่จอห์นใช้ single coil เซ็ทนี้ไม่ใช่ noiseless แต่กลับขั้วตัวกลางเพื่อตัดเสียงจี่ PRS เคลมว่าปิคอัพรุ่นนี้ให้อัตราส่วนการนำสัญญาณต่อเสียงรบกวน (signal-to-noise ratio) สูงกว่าปิคอัพซิงเกิลคอยล์ทั่วไป ซึ่ง Rene ก็มีส่วนร่วมในการพัฒนาอย่างใกล้ชิด
ในส่วนของระบบคอนโทรลก็คล้ายๆเฟนเดอร์ คือ blade switch 5 ทาง หนึ่งวอลุ่ม ค่า pot 300k สองโทน ค่า pot 250k (ให้โทนเสียงหวานกว่าพวก 500k) ปุ่มทั้งสามมีการออกแบบใหม่ให้หัวมนมากขึ้นเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
บริดจ์หรือหย่องเป็นเหล็ก บล็อกก็เป็นเหล็กไม่ใช่ทองเหลือง ต่างจากของพวก core Custom แซดเดิลเป็น bent steel สกรูหกตัว ก้านคันโยกสไตล์ PRS ที่สามารถกดเข้า-ดึงออกได้เลย ไม่ต้องหมุนเข้าออกให้เสียเวลา ส่วนอะไหล่อื่นๆก็มีการพัฒนาให้แตกต่างจากคนอื่น อย่าง jack plate ที่ออกแบบใหม่ให้ยกตัวสูงขึ้นกว่าของเฟนเดอร์ ทำให้เสียบ-ดึงหัวแจ๊คได้สะดวกขึ้น และหมุดใส่สายสะพายหัวบานๆ ที่เอา string tree ของเบสมาใส่ ประมาณว่าใหญ่ขนาดนี้ยังไงก็ไม่หลุดแน่
เสียง
ผมพยายามอธิบายรายละเอียดสเปคข้างต้นไปเท่าที่ตัวเองมีข้อมูล ณ เวลานี้ ซึ่งกีตาร์รุ่นนี้เปิดตัวได้ประมาณหนึ่งชั่วโมงนะครับ คราวนี้ลองไปฟังเสียงกันดีกว่าว่าเป็นยังไง
เสียงที่ได้นั้นจากที่ผมลองฟังคลีน รู้สึกมีความเต็ม อิ่ม เป็นซิงเกิลคอยล์ที่มีความหวาน ไม่ติดแหลมบาดหู ถือว่าเสียงเพราะมีเสน่ห์เอาเรื่องเลยทีเดียวสำหรับกีตาร์แนวสตรัท น้ำเสียงมีเสน่ห์บาดใจสาวเอาเรื่อง อันนี้ของ Premier Guitar อย่างหวานเลย
ราคา
ผมดูจากโครงสร้าง เกรดงานประดับ อะไหล่ รวมถึง accessories ที่ให้แค่กระเป๋าสะพาย ก็น่าจะเป็นกีตาร์ที่ผลิตจากไลน์ CE นะครับ ส่วนราคาก็อยู่ในระดับ CE เพราะราคาตั้งอยู่ที่ $2,299 ส่วนราคาตัวแทนไทยคือ 79,900 บาท ทั้งนี้มีข่าวว่า อาจเป็นไปได้ที่ในอนาคตจะมีเวอร์ชัน SE ด้วยนะครับ
อันนี้รูปสวยๆครับ
ป.ล. หลังจากผมดูรีวิว อ่านสรุป เขียนบทความนี้ ผมเริ่มชินตากับ PRS หัวกลับละ ชักรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรนักหนานะ ฮ่าๆ


คิดยังไงกับ Silver Sky ตัวนี้บ้างครับ เมนท์แชร์ความเห็นกันได้นะครับ
********************************************************
ข้อมูลเพิ่มเติม PRS Silver Sky